KUBET – ออกจากผีได้ดีจริงไหม? 12 แข้งลา แมนยู คว้าแชมป์ลีกกับสโมสรอื่น

ออกจากผีได้ดีจริงไหม? 12 แข้งลา แมนยู คว้าแชมป์ลีกกับสโมสรอื่น

ตลอดระยะเวลา 12 ปีนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้สัมผัสแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่กระนั้นมีผู้เล่นหลายคนที่อำลาสโมสรแล้วได้ดิบได้ดีคว้าแชมป์ลีกในประเทศที่ย้ายไปค้าแข้ง

 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้สัมผัสแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีนับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำทีมประสบความสำเร็จครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2013 โดยในช่วงที่ผ่านมา “ผีแดง” มีการเปลี่ยนกุนซือมากมาย อาทิ เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ่ มูรินโญ่, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, เอริค เทน ฮาก แต่ก็ไม่สามารถนำแชมป์ลีกเข้ามาประดับตู้โชว์สโมสรได้เลย

 อย่างไรก็ตาม นักเตะ 12 รายที่เลือกตัดสินใจโบกมือลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กลับประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ลีกของประเทศ แล้วผู้เล่นเหล่านั้นเป็นใครกันบ้าง ลองไปพิจารณากันได้เลย 

1. แอชลี่ย์ ยัง

 อดีตปีกที่ผลันตัวเองไปเล่นวิงแบ็ก ใช้เวลา 9 ปีค้าแข้งกับ แมนยูไนเต็ด หลังย้ายมาจาก แอสตัน วิลล่า โดยเขาคว้าแชมป์ลีกในปี 2013, เอฟเอ คัพ, คาราบาว คัพ และ ยูโรปา ลีก อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่อายุเข้าเลขสาม ทำให้เจ้าตัวต้องอำลาสโมสร

 อินเตอร์ มิลาน กล้าเสี่ยงที่จะดึง ยัง ซึ่งตอนนั้นอายุ 35 ปีแล้ว ด้วยสัญญายืมตัวก่อนจะซื้อถาวรในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ในราคาที่ต่ำมาก อย่างไรก็ตามนักเตะยังคงเล่นในระดับสูงได้ ที่สำคัญเจ้าตัวมีความเป็นมืออาชีพสูง และทุ่มเทการเล่นอย่างเต็มที่ 

 การเสี่ยงในครั้งนั้นถือว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะทัพ “งูใหญ่” ผงาดคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในฤดูกาล 2020/2021 โดย ยัง ลงเล่นตัวจริง 16 เกม พร้อมกับทำไป 4 แอสซิสต์ ที่สำคัญเขาเป็นชาวอังกฤษคนที่สามที่ได้ “สคูเด็ตโต้” ในตอนนั้น 

2. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช 

 อิบราฮิโมวิช คว้าแชป์ลีกถึง 12 สมัย จาก 4 ประเทศ แถมยังเป็นผู้เล่นที่แก่แล้วของ เอซี มิลาน เมื่อฤดูกาล 2021/2022 แต่อายุไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับ “พระเจ้า” เพราะชายคนนี้สร้างเรื่องมหัศจรรย์ได้เสมอ

 ปีนั้น “อิบรา” อายุครบ 40 ปีพอดิบพอดี แต่เขาสามารถนำประสบการณ์อันโชกโชนไปใช้ในห้องแต่งตัวของ “รอสโซเนรี่” ในยุคที่ สเตฟาโน่ ปิโอลี่  กุมบังเหียน เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนในการไล่ล่าความสำเร็จ

 ตำนานดาวยิงทีมชาติสวีเดน ตะบันไป 8 ประคูกับ 3 แอสซิสต์ ในการลงสนามให้กับ มิลาน 23 แมตช์ในศึกเซเรีย อา แม้จำนวนประตูจะดูน้อยนิด แต่ถ้าเทียบกับอายุของเขาในการเล่นในลีกที่สุดหิน ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ 

3. ฆวน มาต้า

 มาต้า ย้ายมาเล่นกับ แมนยูไนเต็ด ในปี 2014 หลัง โชเซ่ มูรินโญ่ อนุญาตให้เขาอำลา เชลซี โดยตลอดระยะเวลา 8 ปีกับ “ผีแดง” นักเตะสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยในอังกฤษ 2 รายการ และยูฟ่า ยูโรปา ลีก

 สตาร์ชาวสแปนิช เลล่นให้ทีม 285 เกมซัดไป 51 ประตูกับ 42 แอสซิสต์ แต่กระนั้นเขาไม่ได้ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเหมือนสัยที่เล่นให้ เชลซี และ บาเลนเซีย นั่นจึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ไม่สามารถช่วย แมนยู คว้าแชมป์ลีกได้

 หลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่กับ กาลาตาซาราย ในปี 2022 ด้วยสัญญา 1 ปี และได้เป็นตัวจริง 3 เกมลีกเท่านั้น แต่ก็เพียงพอที่จะคว้าแชมป์ลีกแดนไก่งวงในฤดูกาลนั้น ยังไม่หมดแค่นั้นตอนที่ย้ายไปอยู่กับ วิสเซล โกเบ ก็คว้าแชมป์เจลีก ญี่ปุ่น ด้วย 

4. วิลฟรีด ซาฮา 

 ซาฮา สร้างชื่อให้กับตัวเองในฐานะหนึ่งในปีกที่เล่นได้คงเส้นคงวาที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีก หลังย้ายกลับไปอยู่กับ คริสตัล พาเลซ เมื่อปี 2014 แต่เป็นแข้งนอกสายตาของ เดวิด มอยส์ สมัยคุมแมนยูไนเต็ด

 หลังจากนั้นไฮไลต์ในการค้าแข้งของนักเตะเกิดขึ้นเมื่อปี 2023 หลังจากย้ายไปพิสูจน์ตัวเองกับ กาลาตาซาราย พร้อมกับระเบิดฟอร์มเด็ดช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ลีกสูงสุดประเทศตุรกี ก่อนที่จะย้ายไปเล่นยืมตัวกับ ชาร์ลอตต์ เอฟซี ในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา 

 สำหรับระยะเวลาที่ค้าแข้งกับ กาลาตาซาราย นักเตะตะบันไป 9 ประตู พร้อมนำทีมคว้าแชมป์ลีกด้วยสถิติเก็บได้ 102 คะแนน เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา 

5. ริทชี่ เดอ ลาต

 กองหลังชาวเบลเยียม โดนหมางเมินจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่ค่อยให้โอกาสเขาลงสนาม โดยโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับหลายสโมสร และสุดท้ายเจ้าตัวจึงตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ เลสเตอร์ ซิตี้ แบบถาวรเมื่อปี 2012

 แม้การย้ายไปอยู่กับ “เดอะ ฟ็อกซ์” นักเตะก็ไม่ค่อยได้รับโอกาส และสุดท้ายก็โดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวในช่วงครึ่งซีซั่นหลังของฤดูกาล 2015/2016 แต่กระนั้นเจ้าตัวก็มีชื่อได้เหรียญแชมป์ลีกร่วมกับ เลสเตอร์ ในซีซั่นดังกล่าวเช่นกัน 

6. ปอล ป็อกบา

 กรณีของ ป็อกบา ต้องย้อนไปสมัยเป็นดาวรุ่งและย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส โดยเขาสามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ เซเรีย อา 4 สมัยได้สำเร็จ แถมยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางพรสวรรค์สูงของวงการลูกหนังในเวลานั้น

 อย่างไรก็ตาม การย้ายกลับมาอยู่กับ แมนยู พร้อมวลี “ป็อกแบ็ก” มันช่างน่าผิดหวังสิ้นดี เมื่อเทียบกับค่าตัวมหาศาลที่ “ผีแดง” จ่ายให้กับ “ยูเว่”  เพราะทีมไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้อย่างที่คาดหวังเอาไว้ 

 อย่างไรก็ตามนักเตะช่วย แมนยู คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก กับ คาราบาว คัพ ก่อนจะแยกทางกับ “เร้ด เดวิลส์” ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ และกลับไปเล่นให้ ยูเวนตุส ซึ่งดูเหมือนจะดีแต่ดันดวงแตกโดนจับโด๊ปทำให้โดนดร็อปไปนาน 

7. ปาทริซ เอวร่า

 นี่คือหนึ่งในนักเตะสำคัญของ แมนยูไนเต็ด ในช่วง 8 ปีที่อยู่กับสโมสรก่อนอำลาในปี 2014 พร้อมกับคว้าแชมป์ลีก 5 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นยุคทองตอนที่ป๋ายังทำหน้าที่กุมบังเหียนทีม

 อย่างไรก็ตามหลังจากจบฤดูกาล 2013/2014 เอวร่า อำลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปเล่นกับ ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวแค่ 1.2 ล้านปอนด์ (ราว 52.8 ล้านบาท) เท่านั้น แต่ผลงานเกินคุ้มมากๆ สำหรับความสำเร็จกับ “ม้าลาย”

 ช่วงเวลานั้น เอวร่า ซึ่งลงสนามให้ “เบียงโคเนรี่” 82 เกมตลอด 2 ซีซั่นครึ่ง ได้เล่นร่วมกับ จานลุยจิ บุฟฟ่อน, คาร์ลอส เตเวซ และ อันเดรีย ปีร์โล่ โดยพวกเขาช่วย ยูเว่ คว้าแชมป์ เซเรีย อา, โคปปา อิตาเลีย และทะลุชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก 

8. อังเคล ดิ มาเรีย

 สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินา เซ็นสัญญากับ แมนยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2014/2015 โดยมาพร้อมกับความคาดหวัง เพราะผลงานที่สร้างเอาไว้กับ เรอัล มาดริด แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร แถมยังจบไม่สวยซะด้วย

 ดิ มาเรีย ใช้เวลาอยู่ใน “โรงละครแห่งความฝัน” เพียงแค่ 1 ฤดูกาลเท่านั้น และไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลย โดยเหตุผลสำคัญเป็นเพราะไม่สามารถปรับตัวกับชีวิตในเมืองผู้ดีได้ โดยเฉพาะการอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ ที่สำคัญครอบครัวก็ไม่ปลอดภัยเพราะบ้านโดนโจรยกเค้าด้วย

 จากนั้น ดิ มาเรีย ตัดสินใจอำลาทีมไปเล่นให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และคว้าแชมป์ลีก เอิง 5 สมัย พร้อมกับซัดไป 93 ประตูกับ 119 แอสซิสต์ ตลอด 295 เกม ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่าฟอร์มของนักเตะสุดยอดมากแค่ไหน

9. อันเดร เอร์เรร่า

 ดาวเตะชาวสแปนิช ถือว่าประสบความสำเร็จเบาๆ กับ แมนยูไนเต็ด ในการคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยในอังกฤษ ช่วงระหว่างปี 2015-2017 รวมทั้งการคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก โดยลงเล่นไปทั้งหมด 189 เกมตลอดระยะเวลา 5 ปีกับ “ผีแดง”

 สาวก “เร้ด อาร์มี่” ชื่นชอบ เอร์เรร่า มากๆ เพราะเป็นผู้เล่นที่พร้อมทุ่มเทเต็มที่ให้กับ แมนยู แต่กระนั้นเมื่ออายุเข้าสู่เลขสามสิบ นักเตะตัดสินใจอำลา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อไปหาความท้าทายใหม่ในช่วงบั้นปลายอาชีพลูกหนัง

 กรณีของ เอร์เรร่า ก็คล้ายกับ ดิ มาเรีย เพราะเขาย้ายไปอยู่กับ “เปแอสเช” และคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกในอาชีพนักเตะของเขา ก่อนจะได้แชมป์อีกครั้งใน 2 ฤดูกาลถัดมา นอกจากนี้ยังทะลุชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย แต่น่าเสียดายที่แพ้ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนที่จะกลับไปอยู่ แอธเลติก บิลเบา แถมคว้าแชมป์สแปนิช คัพ เมื่อปี 2024 

10. โรเมลู ลูกากู

 กองหน้าร่างยักษ์มาพร้อมกับความคาดหวังว่าจะนำ แมนยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จ แต่กลายเป็นว่าไม่เป็นดั่งที่คาดคิดเอาไว้ เพราะนักเตะล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการยิงประตูเมื่อเทียบกับค่าตัวมหาศาลที่ “ผีแดง” ลงทุน

 อินเตอร์ มิลาน ตัดสินใจควักกระเป๋าเป็นสถิติสโมสรในการดึง ลูกากู มาร่วมทัพ และในฤดูกาลแรกเจ้าตัวก็กลับมาระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอดด้วยการตะบันไปถึง 34 ประตู และพา “งูใหญ่” เข้าชิง ยูโรปา ลีก แต่แพ้ เซบีย่า

 กระนั้นในซีซั่น 2020/2021 ลูกากู ยังคงรักษาฟอร์มโดดเด่นเอาไว้ได้ พร้อมกับซัดไป 30 ประตูกับ 10 แอสซิสต์ และนำ “เนรัซซูรี่” คว้าแชมป์ เซเรีย อา ตามด้วยคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล และติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีด้วย 

 ปัจจุบัน ลูกากู ย้ายไปอยู่กับ นาโปลี ที่มี อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือคู่บูญกุมบังเหียน กำลังลุ้นคว้าแชมป์ เซเรีย อา ในฤดูกาลปัจจุบัน 

11. อเล็กซิส ซานเชซ

 อดีตกองหน้าอาร์เซน่อล ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในพรีเมียร์ลีก สมัยที่อยู่กับทัพ “ปืนใหญ่ แต่หลังจากย้ายมาโชว์เล่นเปียโนเปิดตัวกับ แมนยูไนเต็ด ชีวิตของเขาสาละวันเตี้ยลงอย่างต่อเนื่อง

 ตอนนั้น แมนยู ใช้วิธีการแลกตัวระหว่าง  เฮนริค มคิตาร์ยาน กับสตาร์ชาวชิลี เมื่อต้นปี 2018 แต่นี่คือการย้ายค่ายสลับขั้วที่ห่วยแตกที่สุดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เพราะทั้งสองคนล้มเหลวกับต้นสังกัดใหม่เรียบวุธ

 ซานเชซ ซัดไปแค่ 2 ประตูในซีซั่นแรกที่เดบิวต์กับ “ผีแดง” และซีซั่นต่อมาฟอร์มก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย และสุดท้ายก็โดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ อินเตอร์ มิลาน ก่อนจะย้ายถาวรในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 โดยภายใต้การทำงานกับ คอนเต้ นักเตะเล่นได้โดดเด่นอีกครั้ง และลงเป็นตัวจริง 12 เกมจาก 30 แมตช์ พร้อมยิงไป 7 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ และคว้าแชมป์เซเรีย อา 

 หลังจากนั้น ซานเชซ ยังมีส่วนช่วย อินเตอร์ คว้าแชมป์ลีกอีกครั้งในฤดูกาล 2023/2024 แต่เขาไม่ค่อยได้เล่นมากนัก ก่อนจะอำลาทีมไปเล่นให้ อูดิเนเซ่

12. เบเบ้ 

 แฟนผีโปรเจกต์คงงงว่า เบเบ้ ประสบความสำเร็จด้วยเหรอหลังอำลา แมนยูไนเต็ด แต่มันเป็นความจริงที่หลายคนไม่อยากเชื่อ !!

 เบเบ้ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงหลังย้ายมาเล่นกับ แมนยูไนเต็ด ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นเมื่อปี 2010 และตลอดระยะเวลา 4 ปีใน “เธียเตอร์ ออฟ ดรีม” นักเตะได้ลงสนามแค่ 7 เกมเท่านั้น และไม่มีใครจำได้ว่านี่คืออดีตผู้เล่น “ผีแดง”

 เพื่อโอกาสในการลงเล่นตัวจริงในทีมชุดใหญ่ นักเตะโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับหลายสโมสร และสุดท้ายก็อำลา แมนยูไนเต็ด แบบถาวรเพื่อไปซบ เบนฟิก้า เมื่อปี 2014 และเล่นแค่ครึ่งซีซั่นก็ถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ กอร์โดบา ในครึ่งฤดูกาลหลัง 

 อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่นักเตะลงสนามมากพอกับ เบนฟิก้า นั่นก็ทำให้เขาได้รับสิทธิ์คว้าเหรียญแชมป์ลีกสูงสุดประเทศโปรตุเกส สำหรับปัจจุบันนักเตะย้ายไปอยู่กับทีมระดับดิวิชั่น 3 ประเทศสเปน 

     ทอมเม้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *