ภารกิจที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว วันพุธหน้าเอาไว้ก่อน..
น็อกราชันชุดขาวเข้ารอบตัดเชือกได้หรือไม่นั้นก็เช่นกัน มันอีกตั้งหนึ่งสัปดาห์ ยังไม่ต้องรีบที่จะพูดถึงมัน
นาทีนี้กูนเนอร์สทั้งปวงคงขอดื่มด่ำกับมันให้เต็มอิ่มที่สุด หายใจให้ลึกที่สุดเพื่อสูดเอาอ๊อกซิเจนแห่งความรื่นรมย์ที่กำลังอบอวลอยู่รอบตัวเข้าไปให้มากที่สุด
แล้วเก็บมันเอาไว้นาน ๆ
ไม่มีอะไรจะสวยงาม เขย่าใจ กระชากอารมณ์ มากไปกว่านี้อีกแล้ว
และมันคืออีกครั้งที่ “ลูกยิงประตู” ถูกพูดถึงมากกว่าเรื่องอื่น ๆ ทั้งหมด
แม้ผลการแข่งขันจะสำคัญที่สุด แต่หลายครั้งที่สิ่งอื่น ๆ ใน 90 นาทีของเกมฟุตบอลกลับโดดเด่นยิ่งกว่า เป็นที่จดจำมากกว่า
ฟุตบอลบางเกม เรานึกถึงความเข้มข้นของมัน นึกถึงความสุดเหวี่ยงสนุกตื่นเต้นลุ้นระทึกหัวใจแทบวายของมัน นึกถึงความยิ่งใหญ่ของมัน
นัดชิงฟุตบอลโลก 2022 ถูกพูดถึงในมุมนั้น สกอร์ 3-3 กับเหตุการณ์มากมายพลิกผันไปมารวมอยู่ในเกม ๆ เดียว
หลายเกม เรานึกถึงเหตุการณ์ติดตา เป็นภาพลอยเด่นมาอย่างแรกก่อนเรื่องอื่นใด
ซีดาน โขก มาเตรัซซี่ ภาพจำแรกของหลาย ๆ คนสำหรับนัดชิงฟุตบอลโลก 2006 ลูกจุดโทษที่เหินขึ้นฟ้าของ โรแบร์โต้ บาจโจ ในนัดชิงฟุตบอลโลก 1994 ก็เช่นกัน
หรือจะเป็น เอริค คันโตน่า กระโดดถีบแฟนบอล.. 30 ปีผ่านไปผลนัดนั้นเป็นยังไงไม่รู้แล้วแต่ที่แน่ ๆ คนไม่มีวันลืมกังฟูคิกของก็องโต้
และอีกหลายเกม.. ที่ “ประตู” ที่เกิดขึ้นในนัดนั้น มาก่อนเรื่องอื่น ๆ
แฮนด์ออฟก๊อดกับประตูแห่งศตวรรษของ ดีเอโก้ มาราโดน่า.. โกลเด้นโกลของ ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล.. ลูกยิงประวัติศาสตร์ของ อันเดรส อิเนียสต้า.. เป็นภาพแรกที่แวบขึ้นมาไหมเมื่อเรานึกถึงเกมระหว่างอาร์เจนติน่ากับอังกฤษในฟุตบอลโลก 1986 ไทยกับเกาหลีใต้ในเอเชียนเกมส์ 1998 และนัดชิงฟุตบอลโลกสเปนกับฮอลแลนด์เมื่อปี 2010
หรือรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ปี 1999 เราอาจจำไม่ได้แล้วว่ารูปเกมเป็นอย่างไรหรือสกอร์เป็นอย่างไรด้วยซ้ำ แต่ลูกโซโล่ของ ไรอัน กิ๊กส์ และแผงขนหน้าอกสุดเซ็กซี่ของเขาโผล่ขึ้นมาเป็นสิ่งแรกเมื่อเราคิดถึงมัน
ฟรีคิกบานาน่าชู้ตของ โรแบร์โต้ คาร์ลอส ที่เกิดขึ้นมา 28 ปีแล้ว คนก็ยังไม่ลืม จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ กับใคร จำได้อย่างเดียวคือมัน “โค้งเห็น ๆ” อย่างไร (ลูกยิงของคาร์ลอสเกิดขึ้นในศึกตูร์กนัว เดอ ฟร็องซ์ ระหว่างบราซิลกับฝรั่งเศสเมื่อปี 1997)
เหมือนบังเอิญนะครับ.. โรแบร์โต้ คาร์ลอส นั่งชมอยู่บนอัฒจันทร์ในค่ำคืนของ ดีแคลน ไรซ์ ด้วย
โปรดิวเซอร์ควบคุมการถ่ายทอดสดรู้งานอย่างมืออาชีพสั่งให้ทีมงานตัดภาพไปที่อดีตแบ๊กซ้ายบันลือโลกทันทีหลังฟรีคิกประตู 1-0 ของไรซ์
เปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ว่ามัน “โค้งเห็น ๆ” เหมือนกัน เพียงแต่คาร์ลอสอัดไซด์ก้อยด้วยเท้าซ้าย ส่วนไรซ์กดไซด์โป้งด้วยเท้าขวา
ทั้ง 2 ประตูของคาร์ลอสและไรซ์ต่างก็สวยหมดจดและวิเศษเกินบรรยาย ด้วยความหนักหน่วงรุนแรงขนาดนั้นพุ่งเลยผ่านกำแพงมนุษย์ไปแล้วบอลยังโค้งกลับมาเข้าประตูได้อย่างเหลือเชื่อ
ไรซ์ยิงฟรีคิกแบบนี้ต่อหน้า คาร์ลอส เมื่อภาพตัดไปที่ คาร์ลอส ให้เราทั่วโลกได้เห็นว่าเขามาอยู่ที่สนามด้วย ซีนนี้จึงเจ๋งแบบกรี๊ดสุดเสียง อยากจะยืนปรบมือให้โปรดิวเซอร์ควบคุมการถ่ายทอดสด รู้จังหวะ รู้อารมณ์ รู้ประวัติศาสตร์ มันเชื่อมโยงกันได้อย่างสวยงามจริง ๆ
แต่กับ ดีแคลน ไรซ์ เมื่อคืนนี้ยังพิเศษขึ้นไปอีก เมื่อเขาตะบันฟรีคิกที่ทำให้เราต้องตะโกนโหวกเหวกแบบเดิมได้อีกครั้งในอีกแค่ 12 นาทีให้หลัง
จากฟรีคิกเยื้องขวายิงด้วยเท้าขวาเข้ามุมตีบ สู่ฟรีคิกเยื้องซ้ายยิงด้วยเท้าขวาเข้ามุมไกล
สวยงาม รุนแรง สะใจ และไม่มีทางป้องกันได้ทั้ง 2 ลูก
จะยิงผ่านสุดยอดนายทวารอย่าง ติโบ กูร์กตัวส์ ก็ต้องยิงให้ได้เด็ดขาดแบบนี้ และทั้ง 2 ครั้งกูร์กตัวส์ไม่มีโอกาสเลยจริง ๆ ปลายนิ้วของเขาอยู่ห่างจากลูกบอลอย่างสิ้นหวังตอนที่มันพุ่งข้ามเส้นประตูเข้าไปกระทบตาข่าย
ในสัปดาห์หน้านั่นล่ะครับที่ผลการแข่งขัน 3-0 จากเกมนี้ถึงจะมีความหมาย ในการศึกที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
แต่วันนี้ นาทีนี้ วางมันลงไว้ก่อน ทุกคนรู้ล่ะครับว่ามี แต่แฟนปืนใหญ่คงจะบอกว่าเอาไว้ก่อน ไม่เป็นไร ไม่รีบ ผลมันเกิดขึ้นไปแล้วยังไงมันก็อยู่ตรงนั้นแหละไม่ไปไหน
ขอดื่มด่ำกับความตระการตาของฟรีคิกทั้ง 2 ลูกนี้อีกครั้ง และอีกครั้ง และอีกครั้ง
อาร์เซน่อล – เรอัล มาดริด.. ลอนดอน 8 เมษายน 2025.. ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก..
อีกหนึ่งเกมที่ “ลูกยิงประตู” ถูกพูดถึงมากกว่าเรื่องใดทั้งหมด และมันก็คู่ควรที่จะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
-ตังกุย-