เกาหลีเหนือไม่ได้เงียบในโลกฟุตบอล! เจาะลึกระบบพัฒนานักเตะที่ปั้นเยาวชนหญิงคว้าแชมป์โลก 3 สมัย, ส่งทีมชายไปฟุตบอลโลก, เบื้องหลังคือโรงเรียนลูกหนังสุดลับใจกลางเปียงยาง และแรงจูงใจที่เปลี่ยนชีวิตนักเตะได้จริง
ทีมชาติเกาหลีเหนือ กลายเป็นทีมชาติที่ถูกพูดถึงจากคนทั่วโลก เนื่องจากความสำเร็จที่พวกเขาแสดงออกท่ามกลางความยิ่งใหญ่ในเวทีระดับโลก โดยเฉพาะทีมฟุตบอลหญิงเกาหลีเหนือในระดับเยาวชน และทีมฟุตบอลชายในระดับเยาวชน ความสำเร็จเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่ประเทศของพวกเขาเรียกได้ว่าแทบปิดตัวเงียบ
แถมบางโอกาสยังถูกแบนจากฟีฟ่า และยอมถอดตัวเองออกจากโลกของฟุตบอลเมื่อมีโรคระบาดไปทั่วโลก ความสำเร็จที่โลกตกตะลึงคือการคว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงระดับเยาวชนทั้งระดับโลกและระดับทวีปเอเชียต่อเนื่องเมื่อหวนกลับมา ล่าสุดเยาวชน 17 ปียังคว้าตั๋วไปชิงแชมป์โลกได้อีกหลังเปิดประเทศสู่เส้นทางฟุตบอลอีกครั้ง
ฟุตบอลในประเทศที่ทีมส่วนใหญ่อยู่ในภาครัฐ
ผู้บริหารประเทศเกาหลีเหนือตระหนักว่าข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่พวกเขามีคือกีฬา เกาหลีเหนือมุ่งหวังแสดงให้คนในประเทศเห็นว่าพวกเขามีความแข็งแกร่งและมีความสามารถที่จะประสบความสำเร็จ กีฬาเป็นหนทางหนึ่งในการทำเช่นนั้น พวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ การลงทุนด้านกีฬาของทั้งชายและหญิงนั้นเกิดขึ้น มีการพยายามสร้างทีมฟุตบอลเกาหลีเหนือให้เป็นหนึ่งเดียว
ทีมฟุตบอลในเกาหลีเหนือทุกทีมจะสังกัดอยู่ในอุตสาหกรรม โรงงาน หรือหน่วยงานของรัฐที่แตกต่างกัน เนื่องจากเกาหลีเหนือมีกองทัพประจำการประมาณหนึ่งล้านนาย และพื้นที่สาธารณะที่มีกำลังทหารมากมาย กองทัพจึงครองความได้เปรียบในฟุตบอลเกาหลีเหนือ ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือสโมสร April 25 (ทีมกองทัพ) ซึ่งตั้งชื่อตามวันที่ 25 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่คิม อิล ซุง ก่อตั้งกองทัพของเขา
คิม จอง อึน เคยเขียนเกี่ยวกับทิศทางของกีฬาเกาหลีเหนือ ชื่อว่า Let Us Usher In a New Golden Age of Building a Sports Power in the Revolutionary Spirit of Paektu กีฬามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชาติ เพิ่มเกียรติยศและศักดิ์ศรีให้กับประเทศ สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนด้วยความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของชาติ และสร้างกำลังใจให้กับสังคมโดยรวม
ที่สำคัญกว่านั้น กีฬาโดยทั่วไปและฟุตบอลโดยเฉพาะไม่ควรได้รับการมองต่างไปจากการเตรียมตัวสำหรับสงคราม นักกีฬาควรมองโปรแกรมการฝึกซ้อมของตนเป็นคำสั่งการรบที่สโมสรกำหนด กีฬาชนิดแรกที่เกาหลีเหนือควรแสวงหาความยิ่งใหญ่ในระดับโลกตามที่คิม จอง อึน กล่าวคือฟุตบอลหญิง ซึ่งจู่ ๆ หลักสูตรพลศึกษาก็เน้นไปที่ฟุตบอลมากขึ้น ห้องเรียนในโรงเรียนมัธยมก็ถูกจัดใหม่เป็นทีมฟุตบอลเพื่อฝึกซ้อมทันที
โรงเรียนฟุตบอลนานาชาติเปียงยาง
มีคำบอกกล่าวว่าไม่สำคัญหรอกว่าพวกเขาจะชอบฟุตบอลหรือไม่ แต่คิม จอง อึน ชอบฟุตบอล มีการค้นหานักเตะพรสวรรค์ทั่วประเทศ และผู้เล่นหน้าใหม่ที่ถูกค้นพบจะถูกป้อนเข้าสู่สถาบันฟุตบอลแห่งใหม่ “โรงเรียนฟุตบอลนานาชาติเปียงยาง” จากนั้นจึงเข้าสู่ทีมชาติต่าง ๆ และอาจส่งไปต่างประเทศด้วย
แผนของคิม จอง อึน กำลังถูกนำไปปฏิบัติจริง ที่โรงเรียนมัธยมคังปันซ็อก (ตั้งชื่อตามแม่ของคิม อิล ซุง) สนามฟุตบอลทรายขนาดใหญ่เต็มไปด้วยเยาวชนกว่าร้อยคน ชอง ยง จิน โค้ชทีมโรงเรียนวัย 57 ปี กำลังพยายามปรับปรุงความแม่นยำในการยิงประตูของทีม จัดกลุ่มเด็กชายและเด็กหญิงของเขาให้เข้าแถว แต่ละคนรับลูกบอลเพื่อเลี้ยงบอลและยิงไปที่ผนังที่ทาสีเขียว ซึ่งแบ่งตารางออกเป็นส่วนต่าง ๆ โดยให้คะแนนเมื่อยิงเข้ามุม
ทุกคนฝึกซ้อม เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงเล่นด้วยกันเพื่อช่วยให้เด็กผู้ชายพัฒนาขึ้น ทีมหญิงได้รับความนิยมมากขึ้นและกำลังทุ่มเทให้กับทีมเด็กชายมากขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ฝูงเด็ก ๆ เริ่มทยอยกันออกไป รวมทั้งนักเตะ ทั้งหมดจะมาที่นั่นอีกครั้งในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้และช่วงบ่ายของวันถัดไป
โรงเรียนฟุตบอลนานาชาติเปียงยางมีรูปถ่ายขนาดใหญ่ใส่กรอบ กว้างเกือบ 4 ฟุต สูง 2 ฟุต แขวนอยู่ มีรูปถูกพบหลังเชือกกำมะหยี่และส่องด้วยแสงสปอตไลต์ โดยเป็นภาพคิม จอง อึน กำลังจับมือกับสมาชิกทีมชาติเกาหลีเหนือ โรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตามคำสั่งของคิม จอง อึน ในปี 2013 โรงเรียนแห่งนี้อยู่ห่างจากสนามกีฬาเมย์เดย์บนเกาะรุงราโดเพียงระยะเดินเท้าสั้น ๆ ที่นี่มีสนามฟุตบอลทุกสภาพอากาศ 20 สนาม
แนวคิดของฟุตบอลคือการวางแนวทางที่ถูกต้อง แข็งแกร่ง แต่ละจังหวัดมีโรงเรียน 50 แห่ง และโรงเรียนทั้ง 50 แห่งนั้นมีทีมฟุตบอลเป็นของตัวเอง จากนั้นค้นหาผู้เล่นก็มาที่โรงเรียนฟุตบอลนานาชาติเปียงยาง จากกลุ่มแรกที่นี่มีเด็ก 500 คน อายุตั้งแต่ 7–16 ปี นอกจากฝึกฝนฟุตบอลยังเรียนหนังสืออย่างจริงจัง สภาพแวดล้อมทั้งหมดเต็มไปด้วยฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นสนามฝึกซ้อม, แข่งขัน หรือแม้กระทั่งห้องสมุดเต็มไปด้วยหนังสือฟุตบอลและวารสารภาษาเกาหลี ทฤษฎีฟุตบอลถูกสอนในห้องบรรยายใกล้ ๆ
ปี 2018 ถือว่าเป็นการตอบสนองที่ดีในโปรเจกต์ที่เกิดขึ้น เมื่อผู้เล่น 80 เปอร์เซ็นต์จากทีมอายุต่ำกว่า 16–17 ปี มาจากสถาบันแห่งนี้ แน่นอนว่าเป้าหมายของพวกเขาคือกาตาร์ในปี 2022 แม้ว่ารอบคัดเลือกพวกเขาจะทำผลงานได้ดี แต่ก็ตัดสินใจถอนทีมเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ส่งเติมแกร่งต่างแดน
นอกจากโรงเรียนฟุตบอลนานาชาติเปียงยางแล้วยังมีการส่งผู้เล่นพรสวรรค์หลายสิบคนไปโรงเรียน Corciano ในเมืองเปรูจา เพื่อเพิ่มความสามารถ ฮัน กวาง ซอง คือหนึ่งในแนวคิดนี้ที่ประสบความสำเร็จกับกายารี่ กลายเป็นนักเตะเกาหลีเหนือคนแรกที่ยิงประตูในเซเรียอา จากนั้นมานักเตะเกาหลีเหนือถูกกระจายไปเล่นลีกต่าง ๆ ทั้ง รัสเซีย, จีน แม้ว่าปัญหาที่ตามมาคือเรื่องของเงินเดือนของนักกีฬาจะถูกจ่ายเข้าบัญชีที่ระบุ (บัญชีของรัฐ) เพื่อเติมเต็มเงินสำรองของประเทศ ทำให้การเซ็นสัญญาดังกล่าวกับสโมสรมีปัญหาตามมา ชเว ซอง ฮยอก ถูกฟิออเรนติน่ายกเลิกสัญญาจากกรณีนี้
การเติบโตด้านความสามารถของนักเตะเกาหลีเหนือดีขึ้นจากประสบการณ์ต่างแดน แต่ฟุตบอลในประเทศทั้งชายและหญิงก็ยังคงมีลีกฟุตบอลให้แข่งขัน เกาหลีเหนือ พรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ทีมชาติก็จะได้ทัวร์นาเมนต์แข็งแกร่งในการทดสอบความสามารถทีมสม่ำเสมอ
แนวทางของฟุตบอลหญิงที่สื่อต่างชาติพูดถึง
ดร.อี จอง วู อาจารย์อาวุโสด้านนโยบายกีฬาและนันทนาการ มหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก เคยให้สัมภาษณ์กับ DW สื่อต่างประเทศถึงแนวทางการพัฒนาฟุตบอลหญิงเกาหลีเหนือว่า การแข่งขันกีฬานานาชาติถือเป็นหนทางไม่กี่ทางในการแสดงอำนาจอธิปไตย การดำรงอยู่ และอัตลักษณ์ของประเทศให้โลกได้เห็น ดังนั้นความสำเร็จครั้งใหญ่เช่นนี้จากมุมมองของกีฬาระหว่างประเทศ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่กีฬาระหว่างประเทศจะได้โบกธงชาติของเกาหลีเหนือต่อหน้าผู้ชมทุกประเทศ
ในขณะเดียวกัน ในประเทศเกาหลีเหนือมักใช้กีฬาเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อเพื่อเชิดชูผู้นำของตนและความยิ่งใหญ่ของประเทศ
การวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนและหวังผล
ฟุตบอลหญิงเป็นที่นิยมในประเทศ แต่ผู้นำของเกาหลีเหนือตระหนักว่าช่องว่างระหว่างทีมชุดใหญ่นั้นปิดกั้นโอกาสความสำเร็จ จึงต้องเริ่มจากระดับเยาวชน ดังนั้นจึงหันไปเน้นฟุตบอลหญิงระดับเยาวชนแทน ซึ่งช่องว่างความสำเร็จนั้นจัดการได้ง่ายกว่า
แต่อีกหนึ่งสาเหตุที่น่าสนใจว่าทำไมความสำเร็จในระดับนี้จึงไม่เป็นประโยชน์ในการส่งต่อทีมชุดใหญ่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ว่ากันว่ากลยุทธ์นี้ไม่ได้พัฒนาต่อยอด แต่เป็น เรื่องของการมุ่งเน้นไปที่ชัยชนะ
เมื่อเติบโตขึ้น ช่องว่างระหว่างสโมสรหรือชาติที่มีฐานะมั่นคงและมีกำลังพัฒนาสูงกลายเป็นข้อจำกัดในการต่อสู้ของเกาหลีเหนือ เนื่องจากในประเทศยุโรปหลายประเทศมีลีกอาชีพ และพวกเขาได้รับการสนับสนุนมากกว่าจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายกลุ่ม องค์กรกีฬาของยุโรปให้ความสำคัญกับความสนุกสนานในการเล่นฟุตบอลมากกว่าในฟุตบอลเยาวชน
ในขณะที่เกาหลีเหนือ แม้ว่าคุณจะมีอายุ 13 หรือ 14 ปีก็ตาม พวกเขาก็ยังเข้าร่วมระบบการฝึกซ้อมที่มีระเบียบวินัยสูง เป็นระบบ และเป็นมืออาชีพสูง ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถประสบความสำเร็จได้ตั้งแต่ยังเด็ก
ด้วยความช่วยเหลือของโรงเรียนฟุตบอลนานาชาติเปียงยาง ซึ่งคัดเลือกเด็กผู้หญิง พัฒนา และให้การศึกษาตามแนวทางที่มีระเบียบวินัยและทางวิทยาศาสตร์อย่างเข้มงวด เกาหลีเหนือมองเห็นโอกาสและคว้าโอกาสนี้ไว้
การวางระบบรางวัลที่เปลี่ยนแปลงชีวิต
ในสายตาของเกาหลีเหนือ นี่ก็ถือเป็นชัยชนะของระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ จำไว้ว่าเกาหลีเหนือยังคงรักษาระบอบสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์ที่แข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การนำของคิม จอง อึน พวกเขาพยายามเปรียบเทียบระบอบทุนนิยมกับคอมมิวนิสต์ และแสดงให้เห็นว่าระบอบคอมมิวนิสต์เหนือกว่าระบอบทุนนิยม
นอกจากนี้ เมื่อดูรายงานข่าวบางส่วนเกี่ยวกับผลงานของเกาหลีเหนือในสื่อของเกาหลีเหนือ พวกเขาเน้นย้ำว่าเนื่องจากพวกเขาอยู่ภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์ พวกเขาจึงทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ แม้ว่าจะเหนื่อยล้าทางกายก็ตาม
การเปรียบเทียบความคิดเหล่านั้นโดยตรงกับประเทศทุนนิยม — ในระบบทุนนิยม เมื่อนักกีฬาเหนื่อยล้าและได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย ไม่มีทางที่จะทำผลงานได้ พวกเขาต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงจากโค้ช แต่ในระบบสังคมนิยม ความตั้งใจของพวกเขามีความสำคัญมากกว่า (ความคิดเห็นของมืออาชีพจากโค้ชหรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ใด ๆ) ดังนั้นเกาหลีเหนือจึงมองว่านั่นเป็นระบบที่เหนือกว่า
องค์ประกอบทางจิตวิทยานี้ดูเหมือนจะทำให้ทีมได้เปรียบ แต่เหนือกว่าความรู้สึกรักชาติที่เข้มแข็งและการทำงานอย่างมีวินัยหลายปีนั้น ยังมีแรงจูงใจจากรางวัลที่เปลี่ยนแปลงชีวิตอีกด้วย
แม้ว่าเราจะมักมองว่าเกาหลีเหนือยังด้อยพัฒนาและเน้นเกษตรกรรมเป็นหลัก และผู้คนต้องประสบกับความยากลำบาก แต่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเปียงยางกลับแตกต่างออกไป พวกเขามีความพิเศษในแบบของตัวเอง
เพื่อเป็นแรงจูงใจ รัฐบาลสามารถจะให้ใบรับรองถิ่นที่อยู่แก่ผู้เล่นที่อาศัยอยู่ภายนอกเมืองหลวง ซึ่งจำเป็นสำหรับการเข้าเปียงยาง ในเวลาเดียวกัน ผู้เล่นหลายคนก็ได้รับอพาร์ตเมนต์ แรงจูงใจนี้ไม่ควรมองข้าม ชีวิตในชนบทของเกาหลีเหนือนั้นยากลำบาก โดยมีรายงานว่ามักขาดแคลนอาหารและการดูแลสุขภาพ การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่นั้นแตกต่างออกไป นี่คือวิธีเปลี่ยนชีวิตของพวกเขา เหมือนกับการถูกลอตเตอรีเลยทีเดียว
ผลงานน่าสนใจทีมชาติเกาหลีเหนือทุกชุด
ผลงานเด่นทีมชาติเกาหลีเหนือ
-
ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2 สมัย (1966 – รอบ 8 ทีม, 2010)
-
อันดับ 4 เอเชีย 1980
-
แชมป์เอเชียนเกมส์ 1978 (ชุดใหญ่)
-
แชมป์ AFC Challenge Cup 2 สมัย (2010, 2012)
ผลงานเด่นทีม U23 เกาหลีเหนือ
-
รองแชมป์เอเชียนเกมส์ 2014
ผลงานเด่นทีม U20 เกาหลีเหนือ
-
ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 4 สมัย (1991 – รอบ 8 ทีม, 2007, 2011, 2015)
-
แชมป์เอเชีย 3 สมัย (1976, 2006, 2010), รองแชมป์ 2 สมัย (1990, 2014)
ผลงานเด่นทีม U17 เกาหลีเหนือ
-
ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 6 สมัย (2005 – รอบ 8 ทีม, 2007 – รอบ 16 ทีม, 2011, 2015 – รอบ 16 ทีม, 2017, 2025)
-
แชมป์เอเชีย 2 สมัย (2010, 2014), รองแชมป์ 2 สมัย (2004, 2006)
ผลงานเด่นทีมฟุตบอลหญิงเกาหลีเหนือ
-
แชมป์เอเชีย 3 สมัย (2001, 2003, 2008), รองแชมป์ 3 สมัย (1993, 1997, 2010)
-
แชมป์เอเชียนเกมส์ 3 สมัย (2001, 2003, 2008)
-
แชมป์เอเชียตะวันออก 3 สมัย (2013, 2015, 2017)
ผลงานเด่นทีม U20 หญิง เกาหลีเหนือ
-
แชมป์โลก 2 สมัย (2006, 2016), รองแชมป์ 1 สมัย (2008) จากการเข้าร่วม 8 ครั้ง
-
แชมป์เอเชีย 2 สมัย (2007, 2024), รองแชมป์ 6 สมัย (2006, 2011, 2013, 2015, 2017, 2019)
ผลงานเด่นทีม U17 หญิง เกาหลีเหนือ
-
แชมป์โลก 3 สมัย (2008, 2016, 2024), รองแชมป์ 1 สมัย (2012) จากการเข้าร่วม 8 ครั้ง (ถอนทีม 1 ครั้ง ปี 2022)
-
แชมป์เอเชีย 4 สมัย (2007, 2015, 2017, 2024), รองแชมป์ 4 สมัย (2009, 2011, 2013, 2019)