การปะทะกันระหว่าง เรอัล มาดริด-แอตเลติโก ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ว่ากันตามชื่อชั้นและคุณภาพของสองทีมนี้ สามารถเป็นคู่ดวลในรอบรองฯ หรือ นัดชิงชนะเลิศ ได้เลย
รูปเกมที่ ซานตีอาโก้ เบร์นาเบว ออกมาไม่ต่างจากที่หลายคนจินตนาการไว้ เป็นเกมที่คู่คี่สูสีและยากสำหรับทั้งคู่
ด้วยความที่ใกล้เคียงกันมาก ไอเดียหลักของ คาร์โล อันเชล็อตติ และ โชโล่ ซิเมโอเน่ คือการเล่นที่รัดกุม เน้นรักษาเชฟการยืนให้คอมแพค ปิดช่องว่าง ไม่เน้นเพรสซิ่ง
แน่นอน ทั้งคู่พยายามที่จะเป็นผู้ชนะ กระนั้นถ้าไม่ชนะก็ต้องไม่แพ้ และถ้าแพ้ก็อย่าให้ขาด
ในสนาม ทั้ง มาดริด และ แอตเลติโก ต่างพยายามที่จะเป็นฝ่ายคอนโทรลเกม แล้วค่อยมองหาโอกาส ไม่ได้หวังผลเลิศว่าจะต้องเปิดฉากไล่ถล่มเอาให้จบกันเด็ดขาดเสียตั้งแต่เลกแรก ด้วยต่างก็รู้ดีว่า ด้วยระดับการเล่นที่ใกล้เคียงกัน คุณภาพที่สูงพอกัน ทำแบบนั้นมันไม่ง่าย
ขืนผลีผลามพลาดท่าโดนเยอะขึ้นมา อีก 90 นาทีที่เหลือจะไร้ความหมายเสียเปล่าๆ
ดังนั้นแม้จะมีประตูเกิดขึ้นเร็วตั้งแต่นาทีที่ 4 แต่เกมก็ไม่ได้เปิด เพียงแค่รูปเกมมีขึ้นมีลงตามจังหวะ เดี๋ยว มาดริด เดี๋ยว แอตเลติโก
ผู้มาเยือนโดนเร็ว มีเป๋ไปเล็กน้อย แต่ไม่นานก็กลับมาตอบสนอง ส่วน มาดริด หลังนำเร็ว มีหลุดสมาธิบ้าง บางจังหวะเร่งร้อนจะโต้ ทั้งๆที่ยังเหลือผู้เล่นแอตเลติโกอยู่ในแดน
พาร์ทเกมรุก อันเชล็อตติ วางไอเดียไว้ที่การเล่นด้านกว้าง โจมตีตรงฮาล์ฟสเปซ โดยอาศัยความเร็วและทักษะของ โรดรีโก้ กับ วินิซิอุส ซึ่งได้ผลตั้งแต่มูฟเม้นท์แรก
เฟเด วัลเวร์เด้ ที่ว่ากันว่าลงมาเล่นในสภาพแค่ 70 % จ่ายตัดหลัง ฆาบี กาลัน ด้วยน้ำหนัก ทิศทาง ไทม์มิ่ง ที่สมบูรณ์แบบกว่านี้ไม่มีแล้ว ให้ โรดรีโก้
ถ้าเป็นนักเตะคนอื่น อาจทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะถึงแม้เกมรับ แอตเลติโก จะเปิดช่องค่อนข้างกว้างในตอนแรกที่ กามาวินก้า สวิตช์บอลมา แต่ให้หลังไม่กี่วินาที คู่เซนเตอร์ก็เข้ามาโควเวอร์พื้นที่กันเรียบร้อย
จุดพลาดของแผงหลังแอตเลติโกคือขยับช้าไปนิด จน วัลเวร์เด้ สบช่องจ่าย แต่ที่เหลือนั้นเป็นคุณภาพของหัวหอกบราซิเลี่ยนล้วนๆ
ทั้งบังทั้งบีบ แต่ยังยิงได้ขนาดนั้น ก็ต้องยอม
ในวงสนทนาลูกหนัง อาจยังถกกันอยู่ว่า โรดรีโก้ ถึงระดับโลกแล้วหรือยัง แต่ที่ไม่ต้องเถียงให้เสียเวลาคือลูกยิงนี้มันระดับโลกแน่นอน
ทั้งการอ่านจังหวะ ความเร็ว การเลี้ยงตัด และที่สุดของแจ้คือเทคนิคการยิงบอล !
มาดริด นำ 1-0 กุมความได้เปรียบไปก่อน แต่ แอตเลติโก ก็ตีคืนได้นาที 32 จากประตูที่สวยงามไม่แพ้กัน
จากแท็คติกง่ายๆ วิ่งฉีกไปรับบอลตรงพื้นที่ว่างหลังแบ็ค แต่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ สร้างความแตกต่างได้ด้วยคุณภาพของเขา
ถามว่าลูกนี้แนวรับ มาดริด ผิดอะไร ?
ครับ ถ้าจะถามหาความผิดพลาด ก็หาจนได้นั่นแหละ แต่โดยทั่วไปแล้ว บางครั้งพลาดมากกว่านี้ ยังไม่เสียประตูเลย !
หลังสลัด กามาวินก้า หลุด และตีวงเข้ามาตรงริมกรอบเขตโทษ หัวหอกอาร์เจนไตร์ล็อคเป้าแล้วซัดด้วยขวาทันที
บอลลอยโด่ง โค้งหนีมือ ตีโบลต์ กูร์กตัวส์ ชนเสาเหลี่ยมในเข้าประตูไปอย่างงดงาม
ในเหลี่ยมนี้ ไม่มีการยิงที่ดีกว่านี้แล้ว ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ 10/10
จบครึ่งแรก สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
เริ่มครึ่งหลังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น มาดริด-แอตเลติโก เดินเกมอย่างระมัดระวัง แต่แล้วคุณภาพของนักเตะก็มาสร้างความแตกต่างให้กับเกมอีกครั้ง
นาที 55 เรอัล มาดริด ขึ้นนำ 2-1 จากลูกยิงของ บราฮิม ดิอ๊าซ เหลี่ยมคล้ายๆกับของ ฮูเลี่ยน แต่ต่างตรงที่เป็นลูกเรียด
เริ่มต้นจากจังหวะทำชิ่งของ มาดริด เล่นเป็นกลุ่ม 3 คน บราฮิม-เมนดี้-วินิ
บอลสุดท้ายไปถึง บราฮิม จัดการโยกหลอก โฮเซ่ คิมิเนซ จนหลังหัก ก่อนยิงผ่าน 3 ตัวบล็อค รวม โอบกลัค ด้วยเป็น 4 เข้าประตูไป
เป็นประตูที่โคตรสวยอีกลูกในเกมนี้ เทคนิคของ บราฮิม สุดยอดมาก ถึงแม้หลังเกม ในโซเชี่ยลจะมีการตั้งข้อสังเกตถึงตำแหน่งสุดท้ายของ วินิ ว่าล้ำหน้าและรบกวนการเล่นก็ตาม
แต่ถ้าดูภาพเคลื่อนไหวทั้งหมด จะเห็นว่า วินิ กำลังเคลื่อนที่ออกจากกรอบประตู และบอลก็พุ่งไปตรงเสาอีกฝั่ง โอบลัค เห็นลูกบอลได้ชัดเจน เพียงแต่พุ่งเซฟไม่ได้
ในการตัดสิน จังหวะการเล่นที่มีการเคลื่อนที่ของผู้เล่นเป็นสิ่งสำคัญในการชี้แจงสถานการณ์ หากคุณใส่ภาพนิ่งเข้าไป แสดงว่าคุณกำลังบิดเบือนความเป็นจริง การที่ โซเชี่ยลจะถกเถียงเรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่มันไม่มีอะไรเลย ยิ่งกว่านั้น หากคุณถ่ายภาพนี้จากอีกด้านหนึ่งของสนาม มุมมองก็จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ประตูสุดสวยของ บราฮิม ทำให้ มาดริด นำอีกครั้ง ส่วน แอตเลติโก มีโอกาสจากลูกยิงของ กรีซมันน์ แต่ต้องให้เครดิต กูร์กตัวส์ ว่าเซฟได้สวยงาม
แอตเลติโก พยายามมองหาประตูตีเสมอ แต่ก็ไม่กล้าดันขึ้นสูง เพราะแท็คติกของ อันเชล็อตติ ที่ให้ วินิ กับ เอ็มบั๊บเป้ ดร็อปตำแหน่งตัวเองลงต่ำเล็กน้อยเพื่อหาโอกาสเล่นงานจากจังหวะโต้กลับ
ถึงแม้จะไม่ค่อยมีบทบาทนัก แต่ โชโล่ รู้ดีว่า 2 คนนี้ทำอะไรได้บ้างเมื่อมีพื้นที่ จึงต้องเล่นอย่างระวังต่อไป ขนาดระวังท้ายเกมก็เกือบเสียท่า ยังดีที่ มาร์กอส ยอร์เรนเต้ สกัดลูกเปิดของ เอ็มบัํบเป้ ไว้ได้หวุดหวิด
จบเกม เรอัล มาดริด 2 แอตเลติโก 1 เป็นเกมที่อาจจะไม่ได้บ้าระห่ำ โคตรมันส์อะไร แต่กำไรคนดูคือได้เห็นลูกยิงระดับเวิล์ดคลาสถึง 3 ลูก
แน่นอน มาดริด กุมความได้เปรียบไปก่อน แต่ระยะห่างเท่านี้ถือว่าไม่ได้มากมายอะไร ส่วน แอตเลติโก ถึงแม้ไม่อยากแพ้ แต่อย่างน้อยที่สุดคือพวกเขายังอยู่ในเกม
โชโล่ เองก็บอกว่า “เรายังไม่ตาย”
ตามหลังหนึ่งลูก นัดสองเล่นในบ้าน จะอย่างไรก็สามารถคาดหวังได้เต็มที่
พุธหน้าเรามาหนคำตอบสุดท้ายของคู่นี้ไปพร้อมๆกันครับ
เจมส์ ลาลีกา
คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีมโดย มาร์ก้า
เรอัล มาดริด : กูร์กตัวส์ 6,วัลเวร์เด้ 10,อาเซนซิโอ 7,รือดิเกอร์ 6,เมนดี้ 5,ชูอาเมนี่ 7,กามาวิรก้า 4,บราฮิม 9,โรดรีโก้ 7,วินิซิอุส 4,เอ็มบั๊บเป้ 4,โมดริช 7,เอ็นดริก ไม่มีคะแนน,ลูกัส ไม่มีคะแนน, อันเชล็อตติ 7
แอต.มาดริด : โอบลัค 7,ยอร์เรนเต้ 7,คิมิเนซ 4,ล็องเล่ต์ 6,กาลัน 4,จูเลียโน่ 6 เด ปอล 7,บาร์รีออส 5,ซามู ลีโน่ 5,ฮูเลี่ยน 9,กริซมันน์ 5,โมลีน่า 5,กัลลาเกอร์ 5,เลอ นอร์กม็องด์ 6,กอเรอา 5,ซอร์ลอท 5 , โชโล่ 7